ความสัมพันธ์ระหว่างราคาน้ำมันกับราคาพลาสติก
พลาสติก — โดยเฉพาะพลาสติกที่ผลิตใหม่ (virgin plastics) — มีพื้นฐานมาจากสารประกอบปิโตรเคมีซึ่งได้มาจากน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ ดังนั้น เมื่อ ราคาน้ำมันโลก มีการเปลี่ยนแปลงในระยะสั้นหรือระยะยาว มันจึงมักส่งผลต่อ ต้นทุนการผลิตพลาสติก และอาจสะท้อนไปถึง ราคาพลาสติกในตลาด ด้วย แต่การส่งผ่านนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป เนื่องจากมีตัวแปรหลายอย่างที่ทำให้ผลลัพธ์ไม่ตรง 1:1
บทความนี้นำเสนอภาพรวมของกลไกหลัก ปัจจัยแทรกซ้อน ผลการศึกษา รวมถึงข้อสังเกตสำหรับผู้ประกอบการและแนวโน้มในอนาคต
กลไกที่เชื่อมโยงราคาน้ำมันกับราคาพลาสติก
1. วัตถุดิบ (Feedstock) และกระบวนการผลิต
- พลาสติกหลายชนิด เช่น โพลีเอทิลีน (PE), โพรพิลีน (PP), โพลีไวนิลคลอไรด์ (PVC) ฯลฯ สร้างมาจากโมโนเมอร์ เช่น เอทิลีน (ethylene) และโพรพิลีน (propylene) ซึ่งได้มาจากการแตกตัว (cracking) ของวัตถุดิบเช่น นาฟธา (naphtha) ที่มาจากน้ำมันดิบ
- เมื่อน้ำมันดิบมีราคาสูงขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบเช่นนาฟธาและสารเคมีระหว่างกระบวนการอื่น ๆ ก็จะสูงขึ้นตาม ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของอุตสาหกรรมพลาสติก
- บทความ “From Crude to Cost: The Oil‑Plastic Price Connection” ระบุว่าน้ำมันดิบเป็นฐานของการผลิตปิโตรเคมีและความผันผวนของราคาน้ำมันส่งผลต่อค่าใช้จ่ายการผลิตพลาสติกและห่วงโซ่อุปทานโดยรวม Plastics Engineering
- งานวิจัย “ANALYSIS OF THE EFFECT OF OIL PRICES ON PRICES OF PLASTIC SEED RAW MATERIALS” พบว่ามี ความสัมพันธ์เชิงบวกที่มีนัยสำคัญ ระหว่างราคาน้ำมันกับราคาวัตถุดิบพลาสติก (pellet) โดยทุกการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน 1 หน่วย อาจเพิ่มราคาวัตถุดิบพลาสติกได้ประมาณ 0.75 หน่วย Zenodo+1
2. ต้นทุนพลังงานและโลจิสติกส์
- การผลิตพลาสติกต้องใช้พลังงาน — ไฟฟ้า, ความร้อน, ไอน้ำ — ซึ่งมักเกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมันหรือราคาก๊าซธรรมชาติ
- เมื่อน้ำมันขึ้น ค่าเชื้อเพลิงในกระบวนการผลิตและการขนส่งวัตถุดิบ-ผลิตภัณฑ์จะสูงขึ้นตาม
- สมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกของตุรกี (PLASFED) ระบุว่า เมื่อราคาน้ำมันสูง ค่าใช้จ่ายในโลจิสติกส์และกระบวนการผลิตจะเร่งตัว ส่งผลให้ราคาสินค้าขั้นสุดท้ายสูงขึ้น Plasfed Plastik Sanayiciler Federasyonu
3. พลาสติกรีไซเคิล vs พลาสติกใหม่
- เมื่อราคพลาสติกเวอร์จิน (ผลิตใหม่) สูงขึ้น การใช้พลาสติกรีไซเคิลอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
- แต่เมื่อราคน้ำมันต่ำ ราคพลาสติกใหม่ถูกลง อาจทำให้ราคพลาสติกรีไซเคิลถูกกดดันและความคุ้มทุนลดลง
- งานวิจัย “How COVID‑19 Could Change the Economics of the Plastic Recycling Sector” วิเคราะห์ว่าในช่วงการระบาดของ COVID‑19 ราคาน้ำมันลดต่ำมาก ทำให้ต้นทุนผลิตพลาสติกเวอร์จินต่ำลงและเสี่ยงต่อการที่พลาสติกรีไซเคิลจะสูญเสียความได้เปรียบทางการแข่งขัน MDPI
- เว็บไซต์ PlasticExpert วิเคราะห์ว่าเมื่อน้ำมันถูก ราคพลาสติกรีไซเคิลจะลดตาม ซึ่งสร้างความท้าทายต่อผู้ประกอบการรีไซเคิล Plastic Expert
4. ความแปรปรวนตามเวลาและภูมิภาค
- การตอบสนองของราคาพลาสติกต่อราคาน้ำมันไม่ใช่แบบคงที่เสมอไป — ขึ้นอยู่กับประเทศ ภูมิภาค โครงสร้างอุตสาหกรรม และประเภทของพลาสติก
- งานวิจัย “Dynamic linkages between international oil price, plastic stock index and recycle plastic markets in China” พบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างราคาน้ำมันกับราคาพลาสติกรีไซเคิลในจีนมีลักษณะ time‑varying co‑movements — ในบางช่วงส่งผ่านแรงกระเพื่อมมาก บางช่วงส่งผ่านน้อย ResearchGate
- ยิ่งไปกว่านั้น ผลการวิจัยกล่าวว่า “shocks” จากตลาดน้ำมันมีผลกระจายไปยังตลาดพลาสติกรีไซเคิลและหุ้นพลาสติก แต่ผลของราคาน้ำมันต่ออัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาพลาสติกรีไซเคิลไม่ได้มีนัยสำคัญในบางกรณี Bohrium
ตัวอย่างจริง &สถานการณ์ล่าสุด
- เมื่อสงครามรัสเซีย–ยูเครนส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกสูงขึ้น หลายสมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกในเอเชียแถลงว่า ราคาวัตถุดิบพลาสติกเริ่ม “ขยับขึ้นเร็วกว่าเดิม” เพื่อสะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น The Jakarta Post
- ในช่วง COVID‑19 ราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างรุนแรง ส่งผลให้ต้นทุนผลิตพลาสติกใหม่ลดลงอย่างมาก แต่ราคาพลาสติกในตลาดอาจตอบสนองช้าหรือไม่เต็มที่ ตามกลไกตลาดและต้นทุนแฝงอื่น ๆ MDPI
- ภูมิภาคที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นแหล่งฟีดสต็อก (เช่น เอทานีจากก๊าซ) มากกว่าน้ำมัน อาจมีความอ่อนไหวต่อตลาดน้ำมันน้อยกว่าในภูมิภาคที่พึ่งพาน้ำมันมาก Plastics Engineering
ข้อสังเกตสำคัญ &ข้อจำกัด
ประเด็น | คำอธิบาย |
ไม่ใช่ส่งผ่าน 100% | ราคาพลาสติกมักไม่เคลื่อนที่ตามราคาน้ำมันแบบ 1:1 เนื่องจากมีต้นทุนแฝงอื่น ๆ |
ช้าหรือเร่งการเปลี่ยนแปลง | การตอบสนองของราคาสินค้าสำเร็จรูปอาจเกิดช้ากว่าราคาวัตถุดิบ |
อุปสงค์–อุปทานในอุตสาหกรรม | ช่วงที่ความต้องการสูง ราคาพลาสติกอาจแข็งแรง แม้น้ำมันลด |
นโยบายและภาษี | มาตรการรัฐ (ภาษี, ค่าธรรมเนียมสิ่งแวดล้อม) สามารถเบี่ยงเบนแรงจูงใจของตลาด |
เทคโนโลยีทดแทน | การปรับตัวมาใช้พลาสติกชีวภาพ หรือวัสดุทดแทน อาจลดความพึ่งพาน้ำมันในอนาคต |
แนวทางรับมือสำหรับผู้ประกอบการ
- วางแผนการจัดซื้อวัตถุดิบล่วงหน้า (Hedging)
ใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (forward contracts) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากราคาน้ำมันผันผวน - เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต &ลดต้นทุนแฝง
ปรับปรุงกระบวนการผลิต ลดพลังงานสูญเสีย และลดการขนส่งที่ไม่จำเป็น - ประเมินการใช้สารทดแทน /วัสดุใหม่
สำรวจการใช้พลาสติกชีวภาพ หรือเทคโนโลยีทดแทนในส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ - ติดตามแนวโน้มน้ำมัน &ปัจจัยโลก
เช่น นโยบาย OPEC, สถานการณ์สงคราม, ความต้องการพลังงานโลก — เพราะสามารถสร้างแรงสั่นสะเทือน - ทำงานร่วมกับภาครัฐ /อุตสาหกรรม
ผลักดันนโยบายสนับสนุนรีไซเคิล พลังงานสะอาด หรือการจัดเก็บค่าผลกระทบสิ่งแวดล้อม
บทสรุป &มุมมองอนาคตของความสัมพันธ์ระหว่างราคาน้ำมันกับราคาพลาสติก
- ราคาน้ำมันเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีแนวโน้มส่งผลต่อราคาพลาสติก — ผ่านต้นทุนวัตถุดิบ พลังงาน และโลจิสติกส์
- อย่างไรก็ดี ความสัมพันธ์นี้ ไม่ใช่กฎเหล็ก — มีความแปรเปลี่ยนตามเวลา ภูมิภาค และประเภทธุรกิจ
- สำหรับผู้ประกอบการ: ความระมัดระวังในกลยุทธ์จัดซื้อและการประเมินต้นทุนเป็นสิ่งจำเป็น
- ในระยะยาว: เมื่อตลาดหันไปสู่พลาสติกชีวภาพหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ความสัมพันธ์แบบเดิมอาจเปลี่ยนไป
No comments:
Post a Comment